ก่อนเข้าเรื่อง ผมอยากพาให้ทุกคนได้รู้จัก CliftonStrengths ก่อนว่าคืออะไร

รู้จัก “CliftonStrengths Top 5” – จุดเริ่มต้นของการรู้จักตัวเองอย่างลึกซึ้ง

ในช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเข้าร่วมอบรมและเวิร์กช็อปหลักสูตร Supervisory Skill for Talent Management (SupTa) ของทาง NIDA ซึ่งภายในมีการค้นหาจุดแข็งของตนเองด้วยเครื่องมือ CliftonStrengths หรือที่รู้จักกันก่อนหน้านี้ว่า “StrengthsFinder” ของ Gallup ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์จุดแข็งของบุคคลผ่านการตอบแบบสอบถามเชิงลึก จากนั้นจะได้ผลลัพธ์เป็น “จุดแข็งที่เด่น 5 อันดับแรกของเรา” ที่สะท้อนแนวโน้มความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมของเราอย่างแม่นยำ

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้คือ:

คนเราจะพัฒนาตนเองสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน ไม่ได้มาจาก “การแก้จุดอ่อน” เป็นหลัก
แต่ต้องเริ่มจาก “การรู้จักและต่อยอดจากจุดแข็ง” ที่มีอยู่แล้วในตัวเรา

สิ่งนี้เปลี่ยนมุมมองของผมในฐานะผู้นำทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ บริษัทสัญชาติเยอรมนี จากเดิมที่อาจเน้นแก้จุดอ่อนทีม มาเป็นการ ดึงจุดเด่นของแต่ละคนมาเสริมกันให้เกิดพลังรวม
และเมื่อย้อนกลับไปดูซีรีส์ธุรกิจเรื่องดังอย่าง Mad Unicorn ก็ทำให้ผมเห็นภาพ “จุดแข็ง” ที่แสดงออกผ่านตัวละครหลักได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Mad Unicorn – ซีรีส์สะท้อนโลกของธุรกิจ Startup ผ่านเลนส์ “จุดแข็ง”

ซีรีส์ Mad Unicorn ได้รับความนิยมในไทยและติดเทรนด์บน Netflix อย่างต่อเนื่องในปลายเดือนพฤษภาคม และได้ถูกกล่าวถึงอย่างแพร่หลายบนโลกออนไลน์จนถึงเดือนมิถุนายน 2568 เนื้อหาไม่ได้สร้างเพียงความบันเทิงให้แก่ผู้ชม แต่ยัง ถ่ายทอดแง่มุมของโลกธุรกิจ Startup ในไทย ได้ลึกและสมจริง

เรื่องราวโฟกัสที่บริษัทสมมติชื่อ “Thunder Express” เป็นบริษัทขนส่งที่มีแพลตฟอร์มออนไลน์ในการบริหารการจัดส่ง ซึ่งมีตัวละครหลัก 3 คน ที่สะท้อนบทบาทสำคัญในทีมธุรกิจ:

1. สันติ – ผู้ก่อตั้ง (CEO)
2. รุ่ยเจี๋ย – หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี (CTO)
3. เสี่ยวหยู – นักกลยุทธ์ / ที่ปรึกษาการเงิน (CFO/Strategic)

หากนำ CliftonStrengths มาใช้วิเคราะห์พวกเขา จะเห็น “จุดแข็ง” ของแต่ละคนอย่างชัดเจนว่า…

หมายเหตุ CliftonStrengths ที่นำมาวิเคราะห์เป็นเพียงการคาดการณ์ของผมเท่านั้น เพื่อความแม่นยำเจ้าตัวต้องผ่านการทำแบบทดสอบด้วยตนเองเพื่อให้ได้รายงานเฉพาะรายบุคคล 😀

🧭 สันติ – ผู้นำ-ผู้ขับเคลื่อนด้วยวิสัยทัศน์และแรงผลักดัน

Top 5 (คาดการณ์):
Futuristic, Achiever, Command, Activator, Competition

แนวทางการบริหารทีม:

1. สร้างเป้าหมายใหญ่ให้ทีม “มองไกล”
2. กล้าตัดสินใจในสถานการณ์เสี่ยง
3. เน้นการ “ลงมือทำเลย” มากกว่าคิดรอบด้าน
4. เชื่อในชัยชนะและแรงผลักดันจากการแข่งขัน
5. มีวาทะศิลป์ในการโน้มน้าว

🔎 จุดเด่น: พาทีมทะลุข้อจำกัดด้วยพลังใจและวิสัยทัศน์

⚠️ ข้อควรระวัง: เร่งทีมเกินไป ขาดพื้นที่ให้คนอื่นได้ออกเสียง ทีมอ่อนล้า

บทเรียน: ถ้าเป็นผู้นำแบบนี้ ต้องมีทีมที่คอยเติมเต็มในสิ่งที่ขาด คอยเป็นคู่คิด ไตร่ตรองให้รอบครอบ

🧠 รุ่ยเจี๋ย – นักเทคโนโลยีผู้ยึดหลักการ (บนโลกออนไลน์ให้ฉายาว่า “เครื่องด่าเคลื่อนที่”)

Top 5 (คาดการณ์):
Analytical, Deliberative, Intellection, Consistency, Responsibility

แนวทางการบริหารทีม:

1. ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความถูกต้อง
2. ตัดสินใจโดยอิงข้อมูล ไม่ใช่ความรู้สึก
3. ไม่ประนีประนอมกับสิ่งที่ขัดต่อหลักการหรือมาตรฐาน

🔎 จุดเด่น: เป็นเสาหลักที่ทีมพึ่งพาได้ในการตัดสินใจอย่างมีหลักการ

⚠️ ข้อควรระวัง: ช้าเกินไป มีความยืดหยุ่นน้อยในสถานการณ์ที่ต้องการความเร็วสูง

บทเรียน: ผู้นำแบบนี้ต้องเปิดใจให้กับความเร็ว ความยืดหยุ่น และการเปลี่ยนแปลง คิดถึงใจคนรอบข้าง

🤝 เสี่ยวหยู – นักบัญชีการเงิน นักวางกลยุทธ์ ผู้เข้าใจผู้คน

Top 5 (คาดการณ์):
Strategic, Empathy, Connectedness, Harmony, Individualization

แนวทางการบริหารทีม:

1. มองภาพรวมและวางกลยุทธ์ระยะยาว
2. สร้างความร่วมมือระหว่างสมาชิกภายในทีม
3. เข้าใจและรับฟังความรู้สึกของแต่ละคน
4. เชื่อมโยงจุดแข็งของคนให้เกิดพลังร่วม

🔎 จุดเด่น: เป็นกาวใจของทีมที่ช่วยให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้

⚠️ ข้อควรระวัง: อาจหลีกเลี่ยงการตัดสินใจยากที่จำเป็นต้องเผชิญ

บทเรียน: เหมาะสำหรับดูแลการบริหารคนและวัฒนธรรมทีม มีการวางแผนทางการเงินอย่างดี มีความรอบคอบ

บทเรียนสู่การสร้างทีมที่แข็งแรง – จากซีรีส์สู่ชีวิตจริง

ผมทำหน้าที่บริหาร ทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ขนาดเล็ก 5 คน ในแผนกที่มีอายุราว ~5 ปี เราไม่ใช่ทีมที่ดีที่สุดในองค์กรตั้งแต่ต้น แต่สิ่งที่เปลี่ยนเกมคือ…

ผมเริ่มใช้หลักการ “เข้าใจจุดแข็ง” มาออกแบบวิธีการทำงานร่วมกัน

เมื่อเข้าใจว่าใครถนัดอะไร เราเริ่มเห็นผล:

• งานตรงจุด แบ่งบทบาทชัดเจน
• สร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกในทีม และมองเห็นโอกาสการเติบโต
• ทีมมีส่วนร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนในการสร้างนวัตกรรมให้ธุรกิจหลักได้
• “ทีมเล็กของเรา” กลายเป็นหนึ่งในทีมคุณภาพขององค์กร

✨ สรุป

CliftonStrengths ไม่ได้เป็นแค่ “แบบทดสอบสนุก ๆ” แต่เป็น กระจกสะท้อนศักยภาพแท้ของแต่ละคน
เมื่อเราเรียนรู้จากซีรีส์อย่าง Mad Unicorn สงคราม ⚡ ส่งด่วน แล้วนำกลับมาทบทวนตัวเองในชีวิตจริง
เราจะพบว่า…

🎯 จุดแข็งคือแหล่งพลังงานของความสำเร็จ
🎯 เมื่อเรารู้ว่าเรามีพลังแบบไหน เราก็สามารถพาตัวเองและทีม ไปได้ไกลกว่าที่คิด

หากคุณยังไม่เคยทำแบบทดสอบ CliftonStrengths ผมขอแนะนำให้ลองทำแบบประเมินดูครับ สามารถหาได้ที่หนังสือพร้อมโค้ดการทำแบบทดสอบภายในเล่ม Strengths Finder 2.0 หรือจะประเมินผ่านเว็บขอบ CliftonStrengths โดยตรงเลยก็ได้ และถ้าได้ผลลัพธ์ Top 5 แล้ว ลองมาคุยกันได้นะครับ 😉

เพิ่มเติม

1. The 34 CliftonStrengths Themes
2. Mad Univcorn on Netflix